ก้าวเข้าสู่ปีที่สามของไทย ที่จะมีการจัดขบวนไพร์ดพาเหรดอีกครัั้ง! แต่ปีนี้พิเศษกว่าเดิมเพราะครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะมีการเดินขบวนอย่างยิ่งใหญ่เท่านั้น
งานยังจะจัดในรูปแบบเฟสติวัล และยังร่วมกับกลุ่มศิลปินแดร็ก (Drag) ที่จะมาจัดกิจกรรม “Drag Bangkok Festival 2024” ควบคู่กันไปด้วย
โดยในวันนี้ (20 พฤษภาคม 2567) นฤมิตไพร์ด พร้อมกรุงเทพมหานคร และพันธมิตรภาคประชาสังคมและภาคเอกชน ได้แถลงข่าวความร่วมมือจัดงานใหญ่ใจกลางกรุง “บางกอกไพร์ด เฟสติวัล” (Bangkok Pride Festival 2024)
เนื่องในเดือนความภาคภูมิใจของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งจะเริ่มจัดงานในวันที่ 31 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2567 บริเวณถนนพระราม 1 ศูนย์การค้าสยาม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
โดย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศความร่วมมือในฐานะหน่วยงามท้องถิ่น เผยความตั้งใจจะผลักดันงานนี้ ให้เห็นว่าเราจะเดินไปด้วยกันและสร้างสรรค์กรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ของทุกคน
"งานไพร์ดไม่ได้มีแต่เรื่องของความสนุกสนานอย่างเดียว เป็นงานของชุมชนของผู้มีความหลากหลายที่พยายามจะยกระดับ และมีประวัติศาสตร์มากมายที่เดินทางกันมา
ผู้ว่าฯ ได้ผลักดันเรื่องนี้ในหลากหลายมิติ ทั้งการประกาศให้ข้าราชการสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ ในมิติสาธารณสุข ได้มีการจัดไพร์ดคลินิก จนปัจจุบันมี 24 แห่งตามศูนย์บริการสาธารณสุข และในมิติสังคม เปิดให้มีการจดแจ้งสำหรับคู่รัก LGBTQ ในช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ซึ่งหากกฎหมายผ่านเมื่อไร 164 คู่นั้น จะเป็น 164 คู่แรกที่รอจดทะเบียนสมรส
กรุงเทพมหานครในฐานะหน่วยงานท้องถิ่น เรายินดี พร้อมร่วมไม้ร่วมมือให้เรื่องนี้เป็นจริงให้ได้ เชื่อว่าเราจะเดินไปด้วยกัน และสร้างสรรค์ให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ของทุกคน ย้ำว่าของทุกคนจริงๆ ครับ"
ขณะเดียวกัน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเผยถึงความตั้งใจของการจัดงานในครั้งนี้ คือการร่วมเฉลิมฉลองเคานต์ดาวน์การใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมที่อาจจะได้ใช้ในเร็วๆ นี้ ตามนโยบายของนายกฯ ซึ่งตัวเอง รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ คณะทำงานของ ททท. และพรรคเพื่อไทย จะร่วมไปเดินขบวนและส่งแรงเชียร์ให้ด้วยคำพูดจาก JOKER123 สล็อตเว็บตรง
ขณะที่ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังประกาศการผลักดันกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศให้เติบโตมากยิ่งขึ้นตั้งเป้าจัดกิจกรรมมากมายร่วมหนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของชาวสีรุ้ง และสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาทไปด้วยกัน
"จากข้อมูลการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว พบว่านักท่องเที่ยว LGBTQIAN+ ใช้จ่ายเยอะกว่านักท่องเที่ยวเพศชายหรือเพศหญิงหลายเท่า หากยิ่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของกลุ่ม LGBTQIAN+ ย่อมสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศได้มากขึ้นอีก
ในปีนี้คงจะมีกิจกรรมของชาวสีรุ้งอีก 30 จังหวัดทั่วประเทศที่เราจะจัดเราขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมผลักดันให้เรนโบว์คอมมูนิตี้เติบโต และมาร่วมสร้างรายได้ให้ประเทศให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาทไปด้วยกัน"
มากกว่านั้นการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ยังจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายและเครือข่ายผู้จัดการไพร์ดทั่วประเทศ สามารถไปนำเสนอความพร้อมและคุณสมบัติในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน InterPride World Conference 2025 และ Bangkok WorldPride 2030 ได้สำเร็จ