Teruki Endo ผู้อำนวยการฝ่ายต่อสู้ของ Final Fantasy VII Rebirth (เกมภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake) ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Inside Square Enix ล่าสุด เกี่ยวกับข้อความที่เขาอยากจะสื่อสารไปยังผู้เล่นที่เคยเล่นและยังไม่ได้เล่นเกม รวมถึงวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับภาคที่ 3 ซึ่งเป็นภาคจบของรีเมคไตรภาคนี้
Endo กล่าวว่า ในภาคที่ 2 ของรีเมคไตรภาคนี้ ทีมพัฒนาได้มุ่งเน้นไปที่การขยายระบบการต่อสู้และรูปแบบการเล่นโดยรวม เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมได้หลากหลายวิธี รวมถึงการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ขณะสำรวจโลก ดังนั้นเขาแนะนำให้ทั้งผู้เล่นเก่าและผู้เล่นใหม่สำรวจโลกของเกมอย่างกระตือรือร้นเพื่อสัมผัสกับความหลากหลายดังกล่าว
Final Fantasy VII Remake ภาคต่อไปอยากให้ผู้เล่นมีอิสระมากกว่านี้
สำหรับภาคที่ 3 ซึ่งเป็นภาคจบของรีเมคไตรภาคนี้ผู้กำกับคนดังกล่าวได้บอกว่า เขาอยากมอบอิสระให้กับผู้เล่นมากกว่าภาค Rebirth โดยขณะนี้เขากำลังคิดถึงวิธีการต่าง ๆ ในการนำเสนออิสระเหล่านั้น เนื่องจาก Rebirth เป็นการเติมเต็มความฝันของแฟน ๆ Final Fantasy ด้วยการนำเสนออิสระคล้ายกับเกมยุค Square Soft ดังนั้นในภาคสุดท้ายพวกเขาก็อยากทำให้เกมมีอิสระมากกว่าภาคก่อน ๆ
ระบบการต่อสู้ใน Final Fantasy VII Rebirth ได้รับการปรับปรุงจากภาค Remake ด้วยการเพิ่มทักษะและความสามารถแบบ Synergy ทำให้โดยรวมแล้วระบบการต่อสู้ของภาคนี้โดดเด่นมากขึ้น ตัวละครแต่ละตัวมีความเป็นเอกลักษณ์และท่าทาง สกิลที่หลากหลาย รวมไปถึงการต่อสู้กับศัตรูทางอากาศที่อาจจะดูแปลกไปเล็กน้อยใน Remake แต่กลับกลายเป็นส่วนสำคัญของการต่อสู้ใน Rebirth จนทำให้ผู้เล่นประทับใจอย่างมาก
Final Fantasy VII Rebirth เกมภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 5 ผู้เล่นจะได้ติดตามการผจญภัยของ Cloud และผองเพื่อนเพื่อตามล่า Sephiroth บนแผนที่ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น พร้อมสำรวจประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่าง ๆ เกมมีทั้งหมด 2 แผ่น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะว่าการผจญภัยในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอนคำพูดจาก คาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย !
twistedvoxelFinal Fantasy VII Remake